ในยุคแห่งศตวรรษที่ 21
คือยุคที่เข้าสู่การแข่งขันเชิงกลยุทธ์และการลงทุนข้ามเขตแดนของแต่ละประเทศ
โดยเฉพาะประเทศที่มีความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ
ด้วยเหตุนี้จึงเกิดนโยบายการดึงดูดการลงทุนจากกลุ่มทั้งต่างๆ
ทั้งในและต่างประเทศของตนเอง เช่น นโยบายส่งเสริมการลงทุน นโยบายการค้าเสรี และนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ
ประเทศต่างๆ ที่ต้องการเร่งการพัฒนาทางเศรษฐกิจ จึงต่างเร่งระดมการออกนโยบายต่างๆ
เพื่อให้ผู้ที่เห็นโอกาสในการสร้างธุรกิจเข้ามามีส่วนในการลงทุนในพื้นที่ที่กำหนดไว้
และกับการได้รับสิทธิพิเศษเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข็งขัน แนวคิดลักษณะนี้จึงเกิดขึ้นในกลุ่มประเทศที่มีการเร่งพัฒนาเศรษฐกิจ
เช่น ประเทศไทย สปป.ลาว สหภาพเมียร์ม่าร์ และ กัมพูชา
การเกิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ
จึงเป็นการสร้างการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม
อย่างรวดเร็วและรุนแรง เนื่องจากเป็นการเชิญชวนการลงทุนจากภายนอก
ซึ่งในการประกอบธุรกิจ จะประกอบด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจ 4
ประการคือ ที่ดิน ทุน แรงงาน และผู้ประกอบการ ในปัจจัยทางเศรษฐกิจทั้ง 4 ปัจจัย จะเป็นทรัพยากรมนุษย์ถึง 2 ปัจจัย
ซึ่งแหล่งของทรัพยากรมนุษย์นั้น คือ
ท้องถิ่นและจากภายนอกท้องถิ่นของที่ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ดังนั้น สถาบันการศึกษา
จึงมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นอย่างมากในการเตรียมความพร้อมของประชาชนในการเข้าสู่ตลาดงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ
ทั้งในแง่ของแรงงาน ผู้ประกอบการ การสร้างภูมิคุ้มกันทางจริยธรรมและอาชญากรรม
ที่มีความยั่งยืน
การเตรียมความพร้อมนั้น
ต้องเริ่มจากสร้างระบบการเรียนการสอนตามความถนัดและการสร้างความมุ่งมั่นในการใช้ชีวิตของนักเรียน
การสร้างระบบที่มีความสมดุลระหว่างทักษะทางวิชาการและทักษะทางวิชาชีพ หมายความว่า เส้นทางการศึกษาจริงๆ แล้ว
ไม่ใช่จะสูงสุดได้ที่ระดับมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่จะต้องเน้นเรื่องความเป็นเลิศทางวิชาชีพด้วยอีกทางหนึ่ง
เพราะการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจกิจในระยะยาวนั้น
จะต้องใส่ความเป็นผู้ประกอบการเชิงนวัตกรรมเข้าไปในตัวนักเรียนทุกระดับ
การเป็นผู้ประกอบการหมายถึง การสร้างบุคคลที่รู้จักแสวงหาโอกาส
การยอมรับความเสี่ยง การคาดการณ์อนาคต ด้วยวิธีที่มีความแตกต่างอย่างเป็นระบบ
อีกทั้ง นักเรียนจะต้องรู้จักการสร้างเป้าหมายของตัวเองในชีวิต
เพื่อการสร้างแรงจูงใจในการทำงานและอนาคตอาชีพของตนเอง
การสร้างความเป็นเลิศเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนา
ซึ่งจะต้องมีการพัฒนาทางด้านองค์ความรู้ซึ่งมีการพัฒนาในการศึกษาระดับปริญญาในระบบการศึกษาปกติ
แต่การพัฒนาทางด้านวิชาชีพ
ยังขาดเรื่องการพัฒนามาตรของความเป็นเลิศที่สามารถใช้อ้างอิงหรือมีความเชื่อถือในวงกว้างได้
ดังนั้น การสร้างระบบการเรียนการสอนที่เป็นปริญญาวิชาชีพ
จึงเป็นแนวทางการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในการนักเรียน
เพราะโครงสร้างตลาดงาน ต้องการคนทำงานมากกว่าคนคิด ดังนั้น
สายอาชีพจึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาความยั่งยืนของประเทศเป็นอย่างมาก ดังนั้น
ระบบการศึกษา
จะต้องออกแบบให้นักเรียนสามารถให้นักเรียนได้เลือกตามความสามารถของตนเองที่จะมุ่งสู่ความเป็นเลิศได้ในอนาคต
พร้อมทั้งการสร้างการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจนสามารถสร้างองค์ความรู้ใหม่เชิงนวัตกรรมได้
การสร้างความเป็นนักนวัตกรรม
จะเป็นการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศ
และยังเป็นการสร้างความยั่งยืนในระยะยาว นวัตกรรมสร้างสร้างได้ 3 แนวทางคือ ผลิตภัณฑ์ บริการ และกระบวนการ ทั้ง 3
รูปแบบจะมีสิ่งที่เหมือนกันคือ วิธีการใหญ่ ความคิดใหม่
ที่สร้างประโยชน์ให้กับระบบเศรษฐกิจหรือธุรกิจได้ สิ่งนี้
จะทำให้มูลค้าทางเศรษฐกิจของการผลิตและการบริการจะมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจในระยะยาว
สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างตรงจุดมากขึ้น แต่การสร้างนวัตกรรมนั้นจะต้องอยู่บนพื้นฐานการผลิตที่มีมูลค่าสูงในตัวเอง
หาใช่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้ได้มาซึ่งกำไรมากที่สุด
เพราะหากเน้นเรื่องการสร้างมูลค่าเพิ่มนั้น จะก่อให้เกิดการสูญเสียทางเศรษฐกิจ
หรือเรียกว่า การสร้างขยะทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก และเป็นการเร่งการใช้มูลค่าที่แท้จริงในอนาคตมาเร็วเกินไป