วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2563

หลังวิกฤติพฤติกรรมคนเปลี่ยน ลูกค้าก็เปลี่ยน

จากสถาการณ์โรคระบาด COVID-19 ทำให้เกิดการชะงัดอย่างช็อคๆ ทั่วโลก คนจำนวนมากประมาณครึ่งโลก หรือ 3,000 ล้านคน ไม่อาจจะใช้ชีวิตได้ตามปกติ ในประเทศไทยเองก็ได้รับผลกระทบแบบรุนแรงเช่นกัน ตอนนี้พ่อค่าแม้ค่า นักธุรกิจ ต่างมีรายได้ลดลง อย่างน่าเหลือเชื่อ การดำเนินธุรกิจหลายราย ต้องปิดกิจการชั่วคราว ถึงอาจปิดเป็นการถาวรเลย ก็ได้
.
.
มีการคาดว่า ถ้าอย่างเร็ว ธุรกิจจะกลับมาเริ่มดำเนินการได้ช่ว กรกฎาคม แต่ทุกคนจะชะลอการใช้เงิน เพราะงเินที่มีอยู่นั้น หายไปจากระบบจำนวนมาก เพราะเศรษฐกิจไม่หมุนเวียน ดังนั้น พฤติกรรมต่างๆ ย่อต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย ทั้งเรื่องการใช้งบประมาณ การลงทุน การซื้อสินค้า รูปแบบการดำเนินธุรกิจ รวมถึง การวางแผนทางการเงิน
.
.
ในช่วงที่เราต้องหยุดพักการทำงาน หนุดพักกิจการของเราตอนนี้ กิจกรรมอย่างหนึ่งที่เราต้องทำ แทนการอยู่เฉยๆ คือการหาข้อมูลความต้องการของตลาดและลูกค้าของเราเอง เพราะว่า ความต้องการของลูกค้า ทัศนคติ และพฤคิกรรมจะต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอนหลักวิกฤติ เหมือนกับว่า โลกจะมีการลอกคราบอีกครั้ง เพื่อเติบโตขึ้น
.
.
ด้วยการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ ธุรกิจบางอย่างที่เคยเป็นธุรกิจดาวเเด่น อาจจะไม่ใช่อีกต่อไป ธุรกิจบางอย่างที่ไม่เคยได้รับความสนใจ กลับกลายเป็นธุรกิจที่มีความต้องการก็ได้ เช่น ธุรกิจรับการสัมนานอกสถานที่เพื่อเป็นรางวัลให้กับพนักงาน หลังวิกฤติไป อาจจะกลายเป็นเป็นธุรกิจที่ไม่มีใครสนใจ ส่วนธุรกิจการวางแผนการเงินและการลงทุนเพื่อความมั่นคงของบริษัท จะกลายเป็นธุรกิจที่ได้รัยความสนใจ เพราะใครๆ ก็ต้องการที่จะเก็บเงินไว้ให้เร็วโดยไม่รู้ว่าวิกฤติจะมาอีกเมื่อไหร่
.
.
การหาข้อมูลสามารถหาได้จาก 3 แหล่งหลักๆ คือ
1) ข้อมูลภายในตัวของเจ้าของกิจการเอง หมายความว่า เจ้าของกิจการต้องเข้าใจในบทบาทของตัวเองว่า ตัวเองกำลังส่งมอบอะไรให้กับสังคม ด้วยความสามารถของเราคืออะไร ตรงนี้ต้องคุยกับตัวเองให้ชัดเจน โดยเฉพาะการค้นหา Passion เพื่อการทำงานที่มีความสุข เป็นข้อมูลส่วนแรกที่ต้องเข้าใจ แต่ยังไม่สามารถยึดเป็นข้อมูลทั้งหมดได้ ให้เราพิจารณาข้อมูลต่อไปในส่วนที่ 2
.
2) ข้อมูลจากค้นหาทั่วไป เรื่องนี้ต้องไปหาจากกระแสของสังคม เรื่องการให้ความสนใจของคนทั่วไป สามารถใช้การหาข้อมูลจาก แนวโน้มของ Google Youtube หรือสิ่งที่คนกำลังดูบ่อยๆ ได้ เช่น กระแสการทำงานที่บ้าน การเรียนรู้การทำเกษตร การตั้งกิจการของตนเอง เป็นต้น
.
3) ข้อมูลจากลูกค้าของเราเอง ช่วงนี้ ให้ธุรกิจเริ่มพูดคุยกับลูกค้าว่า คิดเห็นอย่างไร กับสถาการณ์ (โดยส่วนใหญ่แล้วจะบอกว่า "แย่") ให้เราถามต่อไปอีกหน่อยเพื่อหาข้อมูลว่า ลูกค้าจะมีพฤติกรรมอย่างไรต่อไป เพื่อทำการประเมินความต้องการของลูกค้า พฤติกรรมของลูกค้า และสิ่งที่เราสามารถทำให้ลูกค้าได้
.
.
นำข้อมูลทั้ง 3 ส่วนมาวิเคราะห์ว่า เราสามารถทำอะไรให้ลูกค้าได้มากขึ้น ลูกค้าจะมีชีวิตที่ดีขึ้นจากธุรกิจของเรา (ในมุมมองของลูกค้า) แล้วนำมากำหนดว่าธุรกิจของเราต้องปรับตัวอย่างไรโดยมีขั้นตอนในการตั้งคำถามในรูปแบบของ Outste-in ให้กับตัวเองดังนี้

1) ลูกค้ากำลังเดือดร้อนอะไร ต้องการความช่วยเหลืออะไรบ้าง
2) ลูกค้ากำลังมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรหลังวิกฤติ
3) เรามีความสามารถช่วยเหลือลูกค้าในเรื่องอะไรบ้าง หลังวิกฤติ
4) เราต้องพัฒนาความสามารถของเราเรื่องอะไรที่จะให้ลูกค้ามีชีวิตที่ดีขึ้นหลังวิกฤติ
5) เรานำเสนออะไร ธุรกิจอื่นๆ จะเสนออะไร แล้วจริงๆ แล้วลูกค้อยากได้อะไร
.
.
เมื่อรวบรวมข้อมูลเหล่านี้แล้ว จะสามารถนำมาสร้างเป็นแนบทางการเสนอคุณค่า หรือ Value Proposition ให้กับลูกค้า เพื่อให้การปรับตัวของเรา เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือลูกค้า และฟื้นฟูกิจการไปด้วยกัน สิ่งที่ต้องคิดยู่ในใจคือ ถ้าลูกค้ารอด เราก็รอดด้วย เพราะเรายังมีลูกค้าอยู่

.................................................................................................................

พูดคุยกับผู้เขียนได้ที่
Facebook Page Dr.Nara Kittimetheekul
https://www.facebook.com/DrNaraKittimetheekul

รับให้คำปรึกษา ด้านการพัฒนาตนเอง การพัฒนามนุษย์ การออกแบบระบบการทำงาน
การวิจัยการตลาด การปรับ Mindset เพื่อความสุขและความสำเร็จ